วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โรคภูมิแพ้ Allergy กับ เบต้ากลูแคน

โรคภูมิแพ้ คือ โรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาที่ไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ (Allergen) ซึ่งอาจจะได้รับโดยการฉีด กิน หายใจหรือสัมผัส มีทั้งสารก่อภูมิแพ้ในบ้านเช่น ไร ฝุ่น แมลงสาบ ขนและรังแคของสัตว์เลี้ยง เชื้อรา ควันบุหรี่ และสารก่อภูมิแพ้นอกบ้าน เช่น เกสรหญ้า เกสรดอกไม้ ควันและฝุ่นต่างๆรวมถึงอาหาร ยาและสารเคมี ฯลฯ





เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ จะหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ออกมา หากสารนี้แสดงปฏิกิริยาที่ผิวหนัง จะเกิดอาการแพ้บริเวณผิวหนังเช่น ลมพิษ ผื่นคัน (Eczema) ถ้าแสดงออกที่ตาจะกลายเป็นโรคเยื่อตาขาวอักเสบ ถ้าแสดงออกที่จมูกจะเป็นหวัดแพ้อากาศหรือถ้าแสดงออกที่หลอดลมร่วมกับการอักเสบเรื้อรังจะกลายเป็นหอบหืด (Asthma)

สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม คือ พ่อแม่ ปู่ยา จายาย หรือญาติพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ด้วย นอกจากนี้อารมณ์กับจิตใจยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการได้เช่นกัน และผู้ป่วยอาจแสดงอาการหลายอย่างออกมาพร้อมกันได้

อาการของผู้ป่วย

  • โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ คันในจมูก จามติดต่อกันหลายครั้ง น้ำมูกใสๆไหลมาก คัดแน่นจมูก อาการอื่นๆ เช่น หูอื้อ ปวดมึนศีรษะน้ำมูกไหลลงคอ เสมหะติดในคอ

  • โรคหอบหืด ผู้ป่วยจะมีอาการไอ หอบ แน่นหน้าอก หายใจเสียงวี้ด อาจเป็นตอนออกกำลังกาย ตอนกลางคืน หรือตอนเป็นหวัดก็ได้

  • โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผู้ป่วยจะมีอาการเป็นผื่นคัน แห้งแดง และเรื้อรัง พบบ่อยบริเวณผิวหนังส่วนที่อ่อนบางเช่นใบหน้า ข้อพับแขนและขา

  • โรคเยื่อบุตาอักเสบจากการแพ้ ผู้ป่วยมีอาการแสบ คันตา ตาแดง น้ำตาไหล ขยี้ตาบ่อย เปลือกตาบวม

  • ในผู้ป่วยบางรายที่มีปฎิกิริยาการแพ้แบบรุนแรง ซึ่งมักจะเกิดอาการหลังได้รับสารก่อภูมิแพ้ภายในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง จะมีอาการแน่นหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ และอาจเสียชีวิตได้
    สาเหตุเป็นได้ทั้งจากแพ้อาหาร แพ้ยา แพ้แมลงต่างๆ เป็นต้น

การป้องกันโรคภูมิแพ้

  • หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่นทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำ ไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เก็บฝุ่น ไม่เลี้ยงสัตว์ในบ้าน เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีน้อย ฯลฯ

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยควรเลือก ประเภทของการออกกำลังกายให้เหมาะสม เช่น ในสภาวะอากาศร้อนไม่ควรเล่นกีฬาที่ต้องออกแรงมากอย่างต่อเนื่อง เช่น เทนนิส หรือฟุตบอล เพราะอาจทำให้อาการหึดกำเริบได้ โดยผู่ป่วยอาจเกิดอาการคอแห้ง ไอ แน่นหน้าอกหายใจมีเสียงวี้ดๆ เพราะเกิดจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นในระบบหายใจ และเสียน้ำจากเยื่อบุหลอดลมทำให้หลอดลมแห้ง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการเกร็งและหดตัวของหลอดลม

การรักษาโรคภูมิแพ้

  • การรักษาโรคด้วยยา มีทั้งยากิน ยาพ่นจมูก ยาหยอดตา ยาทาผิวหนัง ซึ่วส่วนใหญ่จมีสารสเตอรอยต์เป็นส่วนควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

  • การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ โดยการฉีดสารสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ และค่อยๆเพิ่มปริมาณจนร่างกายผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่อสารที่แพ้ (อิมมูโนบำบัด) ซึ่งต้องรับการฉีดอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 3-5 ปี จึงจะได้ผลดี

วิธีการทำงานของเบต้ากลูแคนจากยีสต์ดำ “มะโฮ”

เบต้ากลูแคนทำหน้าที่ปรับระดับภูมิต้านทานโรคที่รวนผิดปกติ ยับยั้งปริมาณการสร้างแอนติบอดี้ เมื่อเบต้ากลูแคนถูกดูดซึมที่เยื่อบุผนังลำไส้ ส่งผลให้ระบบประสาทสั่งการและเซลล์ภูมิต้านทานจะเริ่มทำงานกำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม ช่วยเซลล์เม็ดเลือดขวไม่ให้ทำงานหนักและยับยั้งการปล่อยอนุมูลอิสระออกมาทำร้ายเซลล์ร่างกาย จึงบรรเทาการตอบสนองที่ผิดปกติและฟื้นฟูภูมิต้านทานได้ นอกจากนี้เบต้ากลูแคนในรูปเจลที่มีน้ำมาก จึงมีประสิทธิภาพสูงในการให้ความชุ่มชื้น รักษาผิวจากความแห้ง และกระตุ้นการเกิดใหม่ของเซลล์ผิวทั้งยังสามารถทาบริเวณบาดแผล ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง ผื่นคัน และผิวหนังอักเสบได้










กลับหน้าแรก




หน้าถัดไป

Twitter

ฝากข้อความ


ShoutMix chat widget